เมื่อวาน 1 มี.ค. อิสราเอล จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ฉีดวัคซีนและไม่ได้รับวัคซีนกับข้อจำกัดการเข้าออกได้ง่าย
การตัดสินใจดังกล่าวเป็นผลมาจากนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ รัฐมนตรีสาธารณสุข นิตซาน โฮโรวิตซ์ และ รมว. ท่องเที่ยวYoel Razvozov ศึกษาข้อมูลการเจ็บป่วยที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและจากข้อมูลนี้จึงตัดสินใจเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาทั้งหมดและผ่อนปรนข้อกำหนดในการเข้าประเทศ
ตอนนี้ผู้เดินทางทุกวัยสามารถเข้าประเทศได้ด้วยการทดสอบ PCR เชิงลบสองครั้ง (หนึ่งครั้งก่อนออกเดินทางและครั้งที่สองหลังจากลงจอดในอิสราเอล) การเข้าทั้งหมดจะต้องกักกันในโรงแรมจนกว่าจะได้รับผลการตรวจ PCR ติดลบหรือ 24 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าจะถึงอย่างใดก่อน ด้วยการประกาศ Eyal Carlin กรรมาธิการการท่องเที่ยวกล่าวว่า:
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อเปิดประเทศอิสราเอลอีกครั้งสำหรับนักเดินทางทั่วโลก ข้อจำกัดที่ง่ายขึ้นนี้ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศของเราได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็รับประกันสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน แม้ว่าประเทศจะปิดตัวลงในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่เรากลับมาดีกว่าเดิมและนักท่องเที่ยวสามารถคาดหวังได้ว่าสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการตกแต่งใหม่พร้อมการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้น โรงแรมใหม่ พิพิธภัณฑ์ใหม่ และอีกมากมาย”
เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่าแม้ได้รับการฉีดวัคซีนและไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเหมือนกันสามารถเข้าประเทศอิสราเอลได้อย่างอิสระ เมื่อกรอกคำชี้แจงการเข้าประเทศ เฉพาะบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนเท่านั้นที่จะได้รับ “Green Pass” นอกจากนี้ กรณีที่ติดเชื้อโควิด นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีน จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องกักกันในขณะที่ บุคคลที่ไม่ได้รับวัคซีน จะต้องกักตัว 5 วัน
ในกรณีของนักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจเป็นบวกสำหรับ COVID บุคคลนั้นจะต้องแยกตัวเองในโรงแรม COVID โดยออกค่าใช้จ่ายเองโดยไม่คำนึงถึง สถานะการฉีดวัคซีน.
โดยสรุป ณ วันที่ 1 มีนาคม แนวทางการเข้าร่วมประกอบด้วย:
- ทำการทดสอบ PCR 72 ชั่วโมงก่อนเที่ยวบินขาออก กรอกคำประกาศของผู้โดยสาร และทำการทดสอบ PCR เมื่อเดินทางมาถึงอิสราเอล จากนั้นกักกันในโรงแรมจนกว่าผลลัพธ์เชิงลบจะถูกส่งคืนหรือผ่านไป 24 ชั่วโมง (แล้วแต่ว่าจะเกิดกรณีใดก่อน)
จากนั้นในวันที่ 8 มีนาคม หลักเกณฑ์ในการเข้ายังต้องการ:
- การมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากโรคโควิด-XNUMX ซึ่งเป็นมาตรฐานในการประกันการเดินทางส่วนใหญ่ในขณะนี้ แต่เป็นความรับผิดชอบของผู้เดินทางที่จะต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อนออกเดินทาง