Marriott International, Inc. ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงกับ Rackson Hospitality Sdn. Bhd นำแบรนด์ Le Meridien ที่เกิดในปารีสมาสู่ ปีนัง, 'ไข่มุกแห่งตะวันออก'
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประตูเมืองปีนัง ท่าอากาศยานเลอ เมอริเดียน ปีนัง 200 ห้องจะตั้งอยู่อย่างมีกลยุทธ์โดย สนามบินนานาชาติปีนัง และจะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาแบบผสมผสานที่จะประกอบด้วยอาคารพักอาศัยอิสระ ศูนย์การแพทย์ พื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่ค้าปลีก
การก่อสร้างโรงแรมมีกำหนดเริ่มในกลางปี 2022 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี พ.ศ. 2026
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Rackson Hospitality Sdn. เพื่อนำแบรนด์เลอ เมอริเดียนมาสู่ปีนัง” ริเวโร เดลกาโด รองประธานประจำภูมิภาคของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลประจำสิงคโปร์ มาเลเซีย และมัลดีฟส์ กล่าว “การลงนามครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลในการขยายธุรกิจทั่วประเทศมาเลเซีย เรามั่นใจว่าเลอ เมอริเดียน สนามบินปีนัง จะช่วยยกระดับการให้บริการบนเกาะ และจะสร้างแรงบันดาลใจให้นักเดินทางได้สำรวจโลกอย่างมีสไตล์ สัมผัสชีวิตที่ดี และเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่มอบสิ่งที่มากกว่าที่ตาเห็น”
ขึ้นชื่อในเรื่องหาดทรายนุ่มๆ ที่มีชื่อเสียง ศิลปะ สถาปัตยกรรม และได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงแห่งอาหารของมาเลเซีย ปีนัง เป็นแหล่งหลอมรวมของวัฒนธรรมและถือได้ว่าเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก สนามบิน Le Méridien Penang Airport ตั้งอยู่บนถนน Jalan Sultan Azlan Shah หลัก โดยมีสะพานลอยฟ้าเชื่อมต่อผู้เข้าพักโดยตรงกับห้างสรรพสินค้าที่อยู่ติดกัน โรงแรมแห่งใหม่นี้จะช่วยให้แขกผู้เข้าพักสามารถเข้าถึงพื้นที่อุตสาหกรรม Bayan Lepas และ Georgetown ได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งใช้เวลาขับรถเพียง 15 และ 25 นาที
“เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์อันทรงเกียรติดังกล่าว ซึ่งมีความหมายอย่างมากสำหรับเราและเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่สำหรับนักพัฒนาที่กำลังมาแรงอย่างเรา ด้านหน้าอาคารโรงแรมจะโดดเด่นด้วยองค์ประกอบการออกแบบที่น่าสนใจ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ลูกค้าธุรกิจและนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศจะพลาดสถานที่สำคัญแห่งนี้เมื่อลงเครื่องที่สนามบิน เมื่อเสร็จสิ้น ปีนัง ฉันเชื่อว่าเกตเวย์มีศักยภาพที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คอันโดดเด่นที่สามารถเข้าถึงได้ในใจกลางของ Bayan Lepas ซึ่งจะยกระดับมาตรฐานทางเศรษฐกิจและสถาปัตยกรรมของเมือง” นายเคลวิน ลอร์ ซีอีโอของ Rackson Group กล่าว