ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในบริษัทโรงแรมและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ยืนยันว่าโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงแรมเรือธงที่ปรับปรุงใหม่ของบริษัทฯ จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 กันยายน 2024 ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับบริษัทฯ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาแบบผสมผสานดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โดยโรงแรมแห่งนี้จะสืบสานตำนานอันยาวนานกว่า 50 ปีของโรงแรมแห่งนี้ พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ด้านการบริการที่หรูหรา โรงแรมได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงนักเดินทางผู้มีรสนิยมดี และสัญญาว่าจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง โดยสร้างมาตรฐานใหม่ด้านบริการและการออกแบบ
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ตั้งอยู่บนพื้นที่อันทรงเกียรติเดียวกันกับโรงแรมเดิม โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร คือ ห้องพักสุดหรูทั้ง 257 ห้องสามารถมองเห็นวิวสวนลุมพินีแบบไร้สิ่งกีดขวางอันน่าทึ่ง เก้าอี้ริมหน้าต่างแบบยื่นออกมาอย่างสง่างามทอดยาวจากห้องพักแต่ละห้อง เชิญชวนให้แขกดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่ง
คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนลเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการผสมผสานเทรนด์ร่วมสมัยเข้ากับจิตวิญญาณเหนือกาลเวลาของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เดิม ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเมื่อเปิดให้บริการครั้งแรกในปีพ.ศ. 1970
“โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ถือเป็นสถานที่สำคัญอันเป็นที่รักและเป็นตัวแทนของการต้อนรับแบบไทยสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเป็นเวลากว่าห้าทศวรรษ” คุณสุธรรมพันธุ์กล่าว “ในขณะที่เราเริ่มปรับโฉมใหม่ เรามุ่งมั่นที่จะสืบสานมรดกดังกล่าวพร้อมทั้งเกินความคาดหวังของแขกผู้มีรสนิยมดีในปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่าเราต้องอนุรักษ์องค์ประกอบต่างๆ ของโรงแรมเดิมอย่างพิถีพิถันและผสมผสานเข้ากับการออกแบบที่ทันสมัยและสดใหม่ได้อย่างลงตัว ตลอดกระบวนการนี้ เรายึดมั่นในวิสัยทัศน์ของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งดุสิต และคุณชนินทธ์ โทณวณิก เจ้าของโรงแรม ซึ่งต้องการนำเสนอวัฒนธรรมและศิลปะไทยและบริการอันแสนอบอุ่นในแบบที่สะท้อนถึงนักเดินทางยุคปัจจุบันและปรับให้เข้ากับความชอบที่เปลี่ยนแปลงไป ความยั่งยืนยังคงเป็นหัวใจสำคัญของดุสิต และความมุ่งมั่นนี้ยังสะท้อนให้เห็นในการออกแบบและการดำเนินงานของโรงแรมแห่งใหม่นี้ด้วย ในท้ายที่สุด เราตั้งเป้าที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ให้กับแขกในขณะที่รักษาความอบอุ่นและการบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของชื่อดุสิตธานีมาโดยตลอด”
คุณณัฐภา ศรียุคษิรี กรรมการผู้จัดการ ดุสิต เอสเตท และกลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์กลยุทธ์ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่าความท้าทายหลักในการออกแบบโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ใหม่ คือการดึงเอาแก่นแท้ของความอบอุ่นและลักษณะเฉพาะของโรงแรมเดิม ขณะเดียวกันก็รับประกันความสวยงามที่สดใหม่และทันสมัย
“โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ดั้งเดิมมีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง และเป้าหมายของเราคือการนำจิตวิญญาณนั้นมาถ่ายทอดให้กลายมาเป็นพื้นที่ร่วมสมัยที่พร้อมสำหรับอนาคต”
คุณศรียุคษิรีกล่าวเสริมว่า “เราเริ่มต้นด้วยการตีความองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโรงแรมเดิมผ่านมุมมองที่ทันสมัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศึกษาการตกแต่งภายในและสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของโรงแรม เพื่อระบุรูปแบบที่เราสามารถปรับปรุงให้ทันสมัยหรืออ้างอิงในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้”
โรงแรมแห่งใหม่ได้รับการออกแบบโดย Architects 49 International Limited และ OMA Asia Hong Kong Limited ซึ่งเป็นแผนกย่อยของ Office for Metropolitan Architecture (OMA) ที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านผลงานอันล้ำสมัยด้านสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง สถาปัตยกรรมของโรงแรมแห่งนี้เป็นการยกย่องสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมแห่งก่อนหน้า การออกแบบภายในที่หรูหราของโรงแรมแห่งนี้ได้รับการออกแบบอย่างประณีตโดย André Fu Studio ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบตกแต่งภายในระดับเอเชียที่ได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ ผสมผสานมรดกอันล้ำค่าของโรงแรมดั้งเดิมเข้ากับสุนทรียศาสตร์ไทยร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยใช้โทนสีอบอุ่นและลวดลายดั้งเดิมที่ละเอียดอ่อนเพื่อตีความงานศิลปะและงานฝีมือไทยคลาสสิกในแบบสมัยใหม่
เพื่อเป็นเกียรติแก่ประวัติศาสตร์อันยาวนานของโรงแรมนี้ พื้น "Heritage Floor" ซึ่งออกแบบโดยบริษัทออกแบบตกแต่งภายในของไทย P49 Deedesign & Associates Co. Ltd. แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของสถานที่เดิมได้เป็นอย่างดี พื้นนี้ประดับประดาด้วยงานศิลปะสุดพิเศษจากศิลปินท้องถิ่น ซึ่งแต่ละคนได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกของโรงแรม
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โฉมใหม่มีจุดเด่นมากกว่าการออกแบบ โดยอาคารยอดแหลมสีทองอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมซึ่งเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมได้กลับมาอีกครั้งและปัจจุบันได้ปรับปรุงใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 3 เท่า นอกจากนี้ แขกยังสามารถชื่นชมภาพวาดและภาพจิตรกรรมฝาผนังจากห้องอาหารไทยเบญจรงค์ของโรงแรมเดิมได้ รวมถึงเสาหลักที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างพิถีพิถันของห้องอาหาร ซึ่งถอดออกอย่างระมัดระวังและติดตั้งใหม่ในล็อบบี้หลักของโรงแรมแห่งใหม่ นอกจากนี้ เพดานไม้สักแกะสลักอย่างประณีตจากห้องอาหารแห่งเดียวกันยังได้รับการประกอบขึ้นใหม่ด้วยความพิถีพิถันและมีชีวิตชีวาขึ้นภายในโรงแรมแห่งใหม่
“การที่เรานำเอาองค์ประกอบต่างๆ ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เดิมมาปรับใหม่ และให้ความสำคัญกับงานฝีมืออันประณีตตลอดกระบวนการออกแบบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ ทำให้เราเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันของโรงแรมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว สร้างความกลมกลืนเหนือกาลเวลาที่แขกจะได้สัมผัสได้ตลอดทั้งโรงแรมแห่งใหม่นี้” คุณศรียุคสิริกล่าว

เสาหลักสี่ประการของพระกรุณาธิคุณดุสิต – บริการ (เป็นส่วนตัวและสง่างาม) ท้องถิ่น (เชื่อมโยงแขกเข้ากับชุมชนท้องถิ่นโดยเฉพาะ) ความผาสุก (มอบประสบการณ์ด้านสุขภาพที่นอกเหนือไปจากสปา) และ การพัฒนาอย่างยั่งยืน (สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม) – ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับประสบการณ์ของแขกในโรงแรมและรีสอร์ทดุสิตทั่วโลกยังมีอิทธิพลต่อการออกแบบของโรงแรมใหม่อีกด้วย
“โรงแรมดุสิตธานีไม่ว่าจะตั้งอยู่ในที่ใดในโลกก็ตาม ล้วนได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้สะท้อนถึงชุมชนที่พวกเขาให้บริการได้อย่างไม่เหมือนใคร สร้างสถานที่ให้ผู้คนได้เห็นและมองเห็น และสร้างคุณค่าให้ไกลเกินกำแพงของโรงแรม” คุณศรียุคสิริกล่าว “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นนี้ เราทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อมุ่งมั่นให้บริการที่เป็นเลิศในด้านการบริการ ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นไทยที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งค่อยๆ ทันสมัยขึ้นเรื่อยๆ จนถึงยอดแหลมสีทองของอาคาร เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าสุนทรียศาสตร์ของแต่ละพื้นที่จะเป็นเวทีสำหรับการสร้างความทรงจำอันยาวนาน นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงละครอีกด้วย หน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดโล่งในห้องบอลรูมและล็อบบี้เชื่อมโยงพลังงานอันมีชีวิตชีวาของโรงแรมเข้ากับสวนลุมพินีโดยรอบได้อย่างลงตัว แสดงให้เห็นทั้งทิวทัศน์เมืองที่สวยงามและเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่เกิดขึ้นภายใน การออกแบบที่สร้างสรรค์นี้ทำให้โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่โดดเด่นในฐานะแลนด์มาร์คที่ไม่เหมือนใคร สัญลักษณ์ที่แท้จริงของยุคใหม่ของการบริการแบบไทย”

นอกเหนือจากความสวยงาม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ยังผสมผสานหลักฮวงจุ้ยเพื่อประสบการณ์การเข้าพักแบบองค์รวม “เป้าหมายของเรา” อธิบาย คุณสมเกียรติ โล่ห์จินดาพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49)“คือการผสานการออกแบบระดับโลกเข้ากับมรดกของโรงแรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว และรวมถึงการผสานภูมิปัญญาฮวงจุ้ยโบราณเกี่ยวกับลมและน้ำเข้ากับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ วิธีการนี้เห็นได้ชัดเจนจากการวางตำแหน่งของอาคารภายในดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ทำให้มั่นใจได้ว่าห้องพักแต่ละห้องจะมองเห็นทิวทัศน์ของสวนลุมพินีได้อย่างไร้สิ่งกีดขวางผ่านหน้าต่างที่ยื่นจากผนังบานใหญ่ที่ตกแต่งด้วยสีทองอันหรูหรา ทิวทัศน์อันน่าทึ่งเหล่านี้เปรียบเสมือน 'กรอบทองแห่งความทรงจำ' ที่ดึงพลังด้านบวกมาสู่โรงแรม ในขณะเดียวกันก็สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับแขก
“การผสมผสานเสน่ห์ของโลกเก่ากับความสง่างามแบบโมเดิร์น ทำให้ไม่มีอาคารใดในกรุงเทพฯ ที่จะเทียบได้กับที่นี่อีกแล้ว ที่นี่สามารถจดจำได้ทันทีว่าเป็นโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ทั้งภายในและภายนอก นอกจากนี้ การเชื่อมต่อที่ราบรื่นกับสวนลุมพินีและสวนบนดาดฟ้าใจกลางดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะทำให้ประสบการณ์ของผู้เข้าพักได้รับความผ่อนคลายอย่างแท้จริง”
เพื่อให้การพักผ่อนอันหรูหราแห่งนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โรงแรมแห่งใหม่แห่งนี้มีห้องพักเพียง 257 ห้อง ซึ่งลดลงจากเดิมที่มี 517 ห้อง โดยให้ความสำคัญกับความกว้างขวางเป็นหลัก ห้องพักอันวิจิตรงดงามเหล่านี้มีขนาดเริ่มต้นที่ 50 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบโดย André Fu Studio ซึ่งได้กล่าวถึงไปแล้ว โดยผสมผสานความสง่างามแบบดั้งเดิมเข้ากับความหรูหราแบบโมเดิร์นได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งสร้างกรอบให้กับทิวทัศน์สวนสาธารณะอันกว้างไกลได้อย่างเป็นเอกลักษณ์
นอกจากห้องพักสุดหรูแล้ว โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ยังมีแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบเมืองที่ไม่เหมือนใครซึ่งมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่มากกว่าแค่สปา และร้านอาหารและบาร์ 5,000 แห่งที่สร้างขึ้นโดยร่วมมือกับเชฟและนักผสมเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียง สำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจและผู้วางแผนงาน โรงแรมมีพื้นที่จัดประชุมและจัดงานเฉพาะกว่า XNUMX ตารางเมตร จุดเด่นคือห้องบอลรูมใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่มีเพดานสูงถึง XNUMX เมตรและวิวสวนลุมพินีแบบพาโนรามา พื้นที่จัดประชุมเพิ่มเติมรองรับทั้งการรวมตัวกันแบบส่วนตัวและงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่
ส่วนองค์ประกอบเพิ่มเติมของดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ได้แก่ ที่พักอาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี (ดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์) ตึกสำนักงานที่ทันสมัย ศูนย์ค้าปลีกระดับไฮเอนด์ และ Roof Park ขนาด 11,200 ตร.ม. ทั้งหมดมีกำหนดเปิดตัวในปี 2025
สามารถจองห้องพักโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ได้แล้ววันนี้ที่ dusit.com/Bangkok

เกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต
โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต เป็นธุรกิจโรงแรมในเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านโรงแรมและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยความเชื่อมั่นและความมุ่งมั่นในการนำเสนอการบริการอันอบอุ่นแบบไทยๆ สู่สายตาชาวโลก โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตจึงมอบประสบการณ์การเข้าพักสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใครในบรรยากาศที่หรูหราและการบริการที่เป็นส่วนตัวให้กับแขกผู้เข้าพัก กลุ่มโรงแรม รีสอร์ท และวิลล่าสุดหรูของกลุ่มประกอบด้วยโรงแรมมากกว่า 300 แห่งที่ดำเนินงานภายใต้แบรนด์รวมทั้งหมด 2 แบรนด์ (Devarana – Dusit Retreats, Dusit Thani, Dusit Suites, Dusit Collection, dusitD18, Dusit Princess, ASAI Hotels และ Elite Havens) ใน XNUMX ประเทศทั่วโลก
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม ดุสิตดอทคอม
เกี่ยวกับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
สัญลักษณ์ โรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพฯ เปิดประตูต้อนรับแขกอีกครั้งหลังจากการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นตาตื่นใจ โรงแรมตั้งอยู่บริเวณสวนลุมพินี นิยามใหม่ของความหรูหราด้วยห้องพักที่มองเห็นวิวสวน และจัดเตรียมประสบการณ์ที่น่าประทับใจด้วยอาหารระดับโลกและสถานที่จัดงานที่ไม่มีใครเทียบได้
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ไม่ใช่เพียงโรงแรม แต่ยังมอบความยิ่งใหญ่คลาสสิกให้มีชีวิตชีวา และเชิญชวนนักเดินทางผู้มีรสนิยมดีมาสัมผัสกับการผสมผสานที่มีชีวิตชีวาระหว่างความสง่างามแบบทันสมัยและเสน่ห์เหนือกาลเวลาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการต้อนรับอันอบอุ่นที่เลื่องชื่อของดุสิต
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม dusit.com/dusitthani-bangkok