- กทม.ผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง
- ลูกค้าร้านอาหารไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนครบเพื่อรับประทานอาหารในร้านอีกต่อไป
- เวลา 9 - 4 น. ยังคงเคอร์ฟิวตามปกติ
ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง 30% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ได้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาตรการเพื่อกำหนดผลกระทบของมาตรการผ่อนคลายที่มีต่อจำนวนผู้ติดเชื้อ
บรรดาผู้อุปถัมภ์จะไม่ต้องฉีดวัคซีนครบสมบูรณ์และ/หรือผ่านการทดสอบโควิด-19 เพื่อรับประทานอาหารในร้านอาหารและร้านอาหารในโซนสีแดงเข้ม ตามประกาศล่าสุดในราชกิจจานุเบกษา รายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์
การประกาศขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ร้านอาหารที่ต้องการเปิดให้บริการอีกครั้งจะต้องจำกัดบริการรับประทานอาหารในเฉพาะลูกค้าที่ได้รับวัคซีนครบสมบูรณ์ และ/หรือผู้ที่ผ่านการทดสอบโควิด-19 ด้วยชุดทดสอบแอนติเจนก่อนเข้าใช้บริการ
นอกเหนือจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อื่นๆ ซึ่งได้รับการรับรองโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (CCSA) ร้านอาหารและธุรกิจอื่นๆ อีกหลายแห่งกำลังเตรียมพร้อมที่จะเปิด แต่เคอร์ฟิว 9 น. - 4 น. จะยังคงเหมือนเดิม ขอให้พนักงานทำงานจากที่บ้านจนถึง 14 ก.ย.
การชุมนุมในที่สาธารณะไม่เกิน 25 คนจะได้รับอนุญาตอีกครั้งในโซนสีแดงเข้ม แม้ว่าจะได้รับอนุญาตจากทางการแล้วก็ตาม
In กรุงเทพมหานครโรงเรียนจะได้รับอนุญาตให้กลับมาสอนแบบตัวต่อตัวได้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกำหนด
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ร้านเสริมสวยและร้านตัดผมจะเปิดให้บริการตามปกติ แต่จะไม่มีการอนุญาตให้วอล์กอินเข้ามา ขณะที่สปาและอาบอบนวดให้บริการเฉพาะนวดเท้าเท่านั้น
นอกจากนี้ จะไม่มีการจำกัดการเดินทางระหว่างจังหวัดจากโซนสีแดงเข้มอีกต่อไป ดร.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สายการบินจะได้รับอนุญาตให้ให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติ ตราบใดที่ที่นั่งมีจำกัด 75%
แยกจากกัน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เชิญพนักงานภาคบริการทำการทดสอบ COVID-19 ฟรีระหว่างวันที่ 31 สิงหาคมถึง 3 กันยายนที่ศูนย์ราชการขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯซึ่งสามารถดำเนินการได้ 1,500 คนในแต่ละวัน